MIDNIGHT รัตติกาลวันสิ้นโลก
ในอนาคตอันใกล้ หายนะมาเยือนโลกนี้ ผู้ที่ยังเหลืออยู่จะเอาตัวรอดอย่างไร ในโลกหลังหายนะที่ไร้ซึ่งแสงเดือนแสงตะวัน
ผู้เข้าชมรวม
3,976
ผู้เข้าชมเดือนนี้
12
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ v-kun ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ v-kun
"วิจารณ์"
(แจ้งลบ)ดีครับ ผมมาจากบอร์ด เห็นว่าอยากได้คำวิจารณ์แรงๆ แต่ผมไม่แรงหรอก เพราะการพูดตามจริง มันไม่มีแรง หรือเบา ชื่อเรื่อง ภาษาไทย ตรงกับพล็อตเรื่องดีครับ แต่ว่ามันยังไม่กระตุ้นความสนใจเท่าไร อาจเพราะเนื้อเรื่องมีความหลากหลายมาก ทำให้ไม่รู้ว่าจุดไหน เป็นจุดหลักของเรื่อง เหมือนจะเป็นแค่การสะท้อนมุมมองของตัวละครออกมา ในเหตุการณ์ต่างๆกันที่ดำเนินไปพร้อมกั ... อ่านเพิ่มเติม
ดีครับ ผมมาจากบอร์ด เห็นว่าอยากได้คำวิจารณ์แรงๆ แต่ผมไม่แรงหรอก เพราะการพูดตามจริง มันไม่มีแรง หรือเบา ชื่อเรื่อง ภาษาไทย ตรงกับพล็อตเรื่องดีครับ แต่ว่ามันยังไม่กระตุ้นความสนใจเท่าไร อาจเพราะเนื้อเรื่องมีความหลากหลายมาก ทำให้ไม่รู้ว่าจุดไหน เป็นจุดหลักของเรื่อง เหมือนจะเป็นแค่การสะท้อนมุมมองของตัวละครออกมา ในเหตุการณ์ต่างๆกันที่ดำเนินไปพร้อมกัน ส่วนภาษาอังกฤษ ทำไมต้องเป็น มิดไนท์ ด้วยล่ะครับ ข้อนี้ผู้เขียนยังไม่ได้อุดรูนะ ถ้าเรื่องทั้งหมดเกิดในเที่ยงคืนคืนเดียวก็โอเค หรือ หลังจากที่อุกกาบาตพุ่งชนแล้ว ทำให้โลกตกอยู่ใต้ความมืดตลอดเวลา ก็เป็นไปได้ แต่ยังไงก็ต้องสื่อให้คนอ่านได้รู้ด้วยนะครับ เต็มสิบให้เจ็ดครับ รูปแบบการนำเสนอ ตัวอักษรใหญ่ดีครับ แต่สีตัวอักษรควรทำเป็นสีเข้มกว่านี้หน่อยนะ ทีแรกจะให้เจ็ดครับ แต่บวกคะแนนที่ผู้เขียนคอยพูดคุยกับนักอ่านให้ด้วยแล้วกัน เพราะดูเอาใจใส่ดีครับ เต็มสิบให้แปดครับ คำและสำนวน คำผิดมีให้เห็นบ้าง แต่ถือว่าน้อยครับ แต่ที่ติดใจจริงๆคือชื่อบท มันยังดูพิกลพิการอยู่นะ เต็มสิบให้ห้าครับ (หลังจากนี้ ถ้าชื่อบทสมบูรณ์ ผมจะมาปรับแก้คะแนนให้ครับ) พล็อต และความเป็นเหตุเป็นผล ประเด็นเยอะเลยครับ ตั้งแต่ที่อ่านมาทั้งหมด ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าจุดหลักของเรื่องอยู่ที่ไหน ผมพยายามแยกคิดเป็นสองส่วน คือส่วนที่เกิดขึ้นก่อนอุกกาบาตชน กับส่วนที่เกิดหลังจากที่อุกกาบาตชน แต่อ่านมาจนจบแล้วมันก็ยังไม่ชน เลยพุ่งประเด็นไปที่ การหาทางรอด ของแต่ละคนมากกว่า ผมว่าถ้าผู้เขียนอยากจะสื่อให้เห็นช่วงก่อนอุกกาบาตจะชนแล้วล่ะก็ น่าจะให้น้ำหนักไปกับการหาทางรอด มากกว่า ให้ฆาตกรมาไล่ฆ่าคนนะ เรื่องไล่ฆ่าผมว่ามันเป็นสีสันดี แต่ให้มันเริ่มปรากฏตัวหลังจากที่มันรอดจากอุกกาบาตชนดีกว่าครับ เพราะนาทีนี้ คนอ่านอยากรู้มากกว่า ว่า แต่ละคน พยายามเอาตัวรอดกันยังไง แล้วตัวเลข 1% ที่จะมีมนุษย์รอด ผมว่ามันเป็นรูขนาดใหญ่เลยล่ะ เพราะมันทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ทฤษฎีอะไรที่พูดอย่างนั้น ถ้าผู้เขียนอยากจะสื่อว่า มันจะต้องมีคนรอดนะ เพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไป ผมว่าไม่ต้องเน้นตัวเลขหรอกครับ เพราะทฤษฏีที่ผ่านมา มันคงใช้ไม่ได้กับวิกฤตอุกกาบาตชนหรอก เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แค่บอกไปธรรมดานั่นแหละ ประมาณว่า คำนวณจากขนาดและแรงพุ่งชนแล้ว น่าจะมีประชาชนส่วนหนึ่งรอดได้ ส่วนเรื่องปราการที่ถูกสร้างขึ้น ถ้าผู้เขียนอยากสื่อให้นักอ่านเข้าใจว่าจุดนี้รอดแน่ ก็น่าจะให้ข้อมูลเรื่องตำแหน่งที่อุกกาบาตชนโลกเข้าไปด้วย เพราะไม่อย่างนั้นจะเกิดคำถามขึ้นในใจนักอ่านว่า พวกประธาณาธิบดีรู้ได้ยังไงว่ามันจะรอด ถ้าอุกกาบาตพุ่งชนจังๆจะรอดหรือ แต่ถ้าพวกเขารู้จุดที่อุกกาบาตจะพุ่งชน คำนวณแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว มีผลชัดเจนว่า รอดชัวร์ อันนี้ก็ไม่แปลกที่จะมั่นใจกันนักหนา ผมคิดว่าผู้เขียนน่าจะให้รายละเอียดเรื่องการพุ่งชนมากกว่านี้หน่อย เช่นว่า มันจะชนตำแหน่งไหน ประเทศอะไรโดนผลกระทบตรงๆ มีผลอะไรตามมาภายหลังบ้าง ทำไมมนุษย์ถึงตายกันเกือบหมด สมมติว่ามันชนที่อเมริกา ประเทศไทยที่อยู่อีกซีกหนึ่งก็น่าจะรอดบ้างไม่ใช่เหรอ อะไรทำนองนี้ แล้วเรื่องนี้ใครพระเอก ใครนางเอกล่ะนี่ หรือไม่มี อ่านแล้วไม่รู้จะลุ้นใคร ลุ้นไปเพื่ออะไร รู้สึกเหมือนมันยังไม่เข้าเนื้อเรื่องจริงๆเลยครับ ถ้าต้องการสื่อหลายๆมุมมอง น่าจะลองศึกษาจากภาพยนตร์เรื่อง Vantage Point ดู เรื่องนี้ก็ทำนองเดียวกัน สะท้อนเหตุการณ์จากหลายๆจุด แต่ทุกจุดมุ่งไปสู่คำตอบเดียวกัน ทำให้เรื่องกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์ คำถามก็คือ ตัวละครทุกตัวที่ผู้เขียนเขียนออกมา มันนำไปสู่ คำตอบ ของอะไร มีตัวตนขึ้นมาเพื่ออะไร จุดหลักของเรื่องนี้คืออะไร สิ่งที่เรื่องนี้ยังขาดอยู่ก็คือความกลมกลืนครับ รู้สึกว่ามันกระจัดกระจาย เหมือนว่าเนื้อเรื่องจริงๆยังไม่เริ่มต้นเลย พล็อตกับความสมเหตุสมผล เต็มยี่สิบ ผมให้สิบสองนะ ที่ยังมีคำถามเยอะ คงเพราะผู้เขียนยังอัพลงไม่เท่าไร ไว้จะมาอ่านใหม่ แล้วปรับคะแนนใหม่ให้เรื่อยๆครับ หวังว่าจะช่วยอุดรูได้บ้าง ไม่มากก็น้อย อ่านน้อยลง
Criticize | 3 มิ.ย. 54
14
1
"เนื้อหาลึกจนน่าตกใจ อยากอ่านต่อมากๆ น่าเสียดายที่ไม่เขียนต่อครับ"
(แจ้งลบ)อ่านนิยายมาหลายเรื่องแล้ว เรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้ผมแปลกใจจริงๆ คือมันเป็นแนวที่แทบไม่เคยเห็นในนิยายไทยมาก่อนเลย เนื้อหานี่บอกเลยว่าไรท์เตอร์น่าจะทำการบ้านมาดีแน่เพราะทั้งแน่น กระชับ บวกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ต่างๆมาเต็ม น่าเสียดายมากๆที่คงจะไม่มีโอกาสได้อ่านต่อ แต่ขอแนะว่าควรเขียนต่อจริงๆนะครับเพราะเขียนได้ขนาดนี้นี่ผมยืนยันเลยว่าหาไม่ง่ายเลย อ่านเพิ่มเติม
อ่านนิยายมาหลายเรื่องแล้ว เรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้ผมแปลกใจจริงๆ คือมันเป็นแนวที่แทบไม่เคยเห็นในนิยายไทยมาก่อนเลย เนื้อหานี่บอกเลยว่าไรท์เตอร์น่าจะทำการบ้านมาดีแน่เพราะทั้งแน่น กระชับ บวกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ต่างๆมาเต็ม น่าเสียดายมากๆที่คงจะไม่มีโอกาสได้อ่านต่อ แต่ขอแนะว่าควรเขียนต่อจริงๆนะครับเพราะเขียนได้ขนาดนี้นี่ผมยืนยันเลยว่าหาไม่ง่ายเลย
ViciousA | 17 ต.ค. 60
0
0
ดูทั้งหมด
"เนื้อหาลึกจนน่าตกใจ อยากอ่านต่อมากๆ น่าเสียดายที่ไม่เขียนต่อครับ"
(แจ้งลบ)อ่านนิยายมาหลายเรื่องแล้ว เรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้ผมแปลกใจจริงๆ คือมันเป็นแนวที่แทบไม่เคยเห็นในนิยายไทยมาก่อนเลย เนื้อหานี่บอกเลยว่าไรท์เตอร์น่าจะทำการบ้านมาดีแน่เพราะทั้งแน่น กระชับ บวกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ต่างๆมาเต็ม น่าเสียดายมากๆที่คงจะไม่มีโอกาสได้อ่านต่อ แต่ขอแนะว่าควรเขียนต่อจริงๆนะครับเพราะเขียนได้ขนาดนี้นี่ผมยืนยันเลยว่าหาไม่ง่ายเลย อ่านเพิ่มเติม
อ่านนิยายมาหลายเรื่องแล้ว เรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้ผมแปลกใจจริงๆ คือมันเป็นแนวที่แทบไม่เคยเห็นในนิยายไทยมาก่อนเลย เนื้อหานี่บอกเลยว่าไรท์เตอร์น่าจะทำการบ้านมาดีแน่เพราะทั้งแน่น กระชับ บวกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ต่างๆมาเต็ม น่าเสียดายมากๆที่คงจะไม่มีโอกาสได้อ่านต่อ แต่ขอแนะว่าควรเขียนต่อจริงๆนะครับเพราะเขียนได้ขนาดนี้นี่ผมยืนยันเลยว่าหาไม่ง่ายเลย
ViciousA | 17 ต.ค. 60
0
0
"วิจารณ์"
(แจ้งลบ)ดีครับ ผมมาจากบอร์ด เห็นว่าอยากได้คำวิจารณ์แรงๆ แต่ผมไม่แรงหรอก เพราะการพูดตามจริง มันไม่มีแรง หรือเบา ชื่อเรื่อง ภาษาไทย ตรงกับพล็อตเรื่องดีครับ แต่ว่ามันยังไม่กระตุ้นความสนใจเท่าไร อาจเพราะเนื้อเรื่องมีความหลากหลายมาก ทำให้ไม่รู้ว่าจุดไหน เป็นจุดหลักของเรื่อง เหมือนจะเป็นแค่การสะท้อนมุมมองของตัวละครออกมา ในเหตุการณ์ต่างๆกันที่ดำเนินไปพร้อมกั ... อ่านเพิ่มเติม
ดีครับ ผมมาจากบอร์ด เห็นว่าอยากได้คำวิจารณ์แรงๆ แต่ผมไม่แรงหรอก เพราะการพูดตามจริง มันไม่มีแรง หรือเบา ชื่อเรื่อง ภาษาไทย ตรงกับพล็อตเรื่องดีครับ แต่ว่ามันยังไม่กระตุ้นความสนใจเท่าไร อาจเพราะเนื้อเรื่องมีความหลากหลายมาก ทำให้ไม่รู้ว่าจุดไหน เป็นจุดหลักของเรื่อง เหมือนจะเป็นแค่การสะท้อนมุมมองของตัวละครออกมา ในเหตุการณ์ต่างๆกันที่ดำเนินไปพร้อมกัน ส่วนภาษาอังกฤษ ทำไมต้องเป็น มิดไนท์ ด้วยล่ะครับ ข้อนี้ผู้เขียนยังไม่ได้อุดรูนะ ถ้าเรื่องทั้งหมดเกิดในเที่ยงคืนคืนเดียวก็โอเค หรือ หลังจากที่อุกกาบาตพุ่งชนแล้ว ทำให้โลกตกอยู่ใต้ความมืดตลอดเวลา ก็เป็นไปได้ แต่ยังไงก็ต้องสื่อให้คนอ่านได้รู้ด้วยนะครับ เต็มสิบให้เจ็ดครับ รูปแบบการนำเสนอ ตัวอักษรใหญ่ดีครับ แต่สีตัวอักษรควรทำเป็นสีเข้มกว่านี้หน่อยนะ ทีแรกจะให้เจ็ดครับ แต่บวกคะแนนที่ผู้เขียนคอยพูดคุยกับนักอ่านให้ด้วยแล้วกัน เพราะดูเอาใจใส่ดีครับ เต็มสิบให้แปดครับ คำและสำนวน คำผิดมีให้เห็นบ้าง แต่ถือว่าน้อยครับ แต่ที่ติดใจจริงๆคือชื่อบท มันยังดูพิกลพิการอยู่นะ เต็มสิบให้ห้าครับ (หลังจากนี้ ถ้าชื่อบทสมบูรณ์ ผมจะมาปรับแก้คะแนนให้ครับ) พล็อต และความเป็นเหตุเป็นผล ประเด็นเยอะเลยครับ ตั้งแต่ที่อ่านมาทั้งหมด ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าจุดหลักของเรื่องอยู่ที่ไหน ผมพยายามแยกคิดเป็นสองส่วน คือส่วนที่เกิดขึ้นก่อนอุกกาบาตชน กับส่วนที่เกิดหลังจากที่อุกกาบาตชน แต่อ่านมาจนจบแล้วมันก็ยังไม่ชน เลยพุ่งประเด็นไปที่ การหาทางรอด ของแต่ละคนมากกว่า ผมว่าถ้าผู้เขียนอยากจะสื่อให้เห็นช่วงก่อนอุกกาบาตจะชนแล้วล่ะก็ น่าจะให้น้ำหนักไปกับการหาทางรอด มากกว่า ให้ฆาตกรมาไล่ฆ่าคนนะ เรื่องไล่ฆ่าผมว่ามันเป็นสีสันดี แต่ให้มันเริ่มปรากฏตัวหลังจากที่มันรอดจากอุกกาบาตชนดีกว่าครับ เพราะนาทีนี้ คนอ่านอยากรู้มากกว่า ว่า แต่ละคน พยายามเอาตัวรอดกันยังไง แล้วตัวเลข 1% ที่จะมีมนุษย์รอด ผมว่ามันเป็นรูขนาดใหญ่เลยล่ะ เพราะมันทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ทฤษฎีอะไรที่พูดอย่างนั้น ถ้าผู้เขียนอยากจะสื่อว่า มันจะต้องมีคนรอดนะ เพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไป ผมว่าไม่ต้องเน้นตัวเลขหรอกครับ เพราะทฤษฏีที่ผ่านมา มันคงใช้ไม่ได้กับวิกฤตอุกกาบาตชนหรอก เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แค่บอกไปธรรมดานั่นแหละ ประมาณว่า คำนวณจากขนาดและแรงพุ่งชนแล้ว น่าจะมีประชาชนส่วนหนึ่งรอดได้ ส่วนเรื่องปราการที่ถูกสร้างขึ้น ถ้าผู้เขียนอยากสื่อให้นักอ่านเข้าใจว่าจุดนี้รอดแน่ ก็น่าจะให้ข้อมูลเรื่องตำแหน่งที่อุกกาบาตชนโลกเข้าไปด้วย เพราะไม่อย่างนั้นจะเกิดคำถามขึ้นในใจนักอ่านว่า พวกประธาณาธิบดีรู้ได้ยังไงว่ามันจะรอด ถ้าอุกกาบาตพุ่งชนจังๆจะรอดหรือ แต่ถ้าพวกเขารู้จุดที่อุกกาบาตจะพุ่งชน คำนวณแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว มีผลชัดเจนว่า รอดชัวร์ อันนี้ก็ไม่แปลกที่จะมั่นใจกันนักหนา ผมคิดว่าผู้เขียนน่าจะให้รายละเอียดเรื่องการพุ่งชนมากกว่านี้หน่อย เช่นว่า มันจะชนตำแหน่งไหน ประเทศอะไรโดนผลกระทบตรงๆ มีผลอะไรตามมาภายหลังบ้าง ทำไมมนุษย์ถึงตายกันเกือบหมด สมมติว่ามันชนที่อเมริกา ประเทศไทยที่อยู่อีกซีกหนึ่งก็น่าจะรอดบ้างไม่ใช่เหรอ อะไรทำนองนี้ แล้วเรื่องนี้ใครพระเอก ใครนางเอกล่ะนี่ หรือไม่มี อ่านแล้วไม่รู้จะลุ้นใคร ลุ้นไปเพื่ออะไร รู้สึกเหมือนมันยังไม่เข้าเนื้อเรื่องจริงๆเลยครับ ถ้าต้องการสื่อหลายๆมุมมอง น่าจะลองศึกษาจากภาพยนตร์เรื่อง Vantage Point ดู เรื่องนี้ก็ทำนองเดียวกัน สะท้อนเหตุการณ์จากหลายๆจุด แต่ทุกจุดมุ่งไปสู่คำตอบเดียวกัน ทำให้เรื่องกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์ คำถามก็คือ ตัวละครทุกตัวที่ผู้เขียนเขียนออกมา มันนำไปสู่ คำตอบ ของอะไร มีตัวตนขึ้นมาเพื่ออะไร จุดหลักของเรื่องนี้คืออะไร สิ่งที่เรื่องนี้ยังขาดอยู่ก็คือความกลมกลืนครับ รู้สึกว่ามันกระจัดกระจาย เหมือนว่าเนื้อเรื่องจริงๆยังไม่เริ่มต้นเลย พล็อตกับความสมเหตุสมผล เต็มยี่สิบ ผมให้สิบสองนะ ที่ยังมีคำถามเยอะ คงเพราะผู้เขียนยังอัพลงไม่เท่าไร ไว้จะมาอ่านใหม่ แล้วปรับคะแนนใหม่ให้เรื่อยๆครับ หวังว่าจะช่วยอุดรูได้บ้าง ไม่มากก็น้อย อ่านน้อยลง
Criticize | 3 มิ.ย. 54
14
1
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น